โรงพยาบาลบ้านธิ จังหวัดลำพูน
Email: admin@banthihospital.org  | Call: : 053-984325-6 Fax.104 | Country : THAI  

นโยบายเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์

โพส: 03 มี.ค. 2564

นโยบายเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์
ประกาศโรงพยาบาล เรื่อง นโยบายเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) ของบุคลากร โรงพยาบาลบ้านธิ
โรงพยาบาลบ้านธิ ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของผลกระทบในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) ทั้งต่อตนเอง ผู้รับบริการ ผู้อื่นและสังคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร จึงเห็นสมควรกำหนดนโยบายใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติสำหรับบุคลากรของโรงพยาบาลบ้านธิ เพื่อให้การใช้การสื่อดังกล่าวเป็นไปอย่างเหมาะสม สร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์และผู้รับบริการ
สื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) หมายถึง สื่อดิจิทัลที่เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติการทางสังคม (Social Tool) เพื่อใช้สื่อสารระหว่างกันในเครือข่ายทางสังคม (Social Network) ผ่านทางเว็บไซต์และโปรแกรมประยุกต์บนสื่อใดๆ ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต เป็นสื่อที่บุคคลทั่วไปสามารถนำเสนอและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเองออกสู่สาธารณะโดยใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารประเภทต่างๆ เนื่องจากสื่อสังคมออนไลน์ (Social Network)เป็นเครื่องมือที่มีทั้งประโยชน์และโทษที่ควรระวัง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อตนเอง ผู้รับบริการและต่อองค์กร ดังนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านธิทุกท่าน สามารถใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ทางโรงพยาบาลจึงมีนโยบายและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ( Social Network) และแสดงตนในฐานะบุคคลกรในสังกัดโรงพยาบาลบ้านธิ ดังนี้
ข้อ1 พึงตระหนักว่า ข้อความหรือความเห็นที่เผยแพร่บน social network ผู้เผยแพร่ต้องรับผิดชอบความเสียหาย ทั้งทางด้านจริยธรรม ด้านสังคมและด้านกฎหมาย นอกจากนี้ ยังอาจมีผลกระทบต่อชื่อเสียงการทำงานและอนาคตของวิชาชีพของตนได้
ข้อ2 พึงใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการเผยแพร่ความคิดเห็นที่อาจกระตุ้นหรือนำไปสู่การโต้แย้งที่รุนแรง เช่น เรื่องเกี่ยวกับการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงการวิพากษ์ องค์กรหรือสถาบันต่างๆ
ข้อ3 พึงระลึกว่า การละเมิดจรรยาบรรณอย่างร้ายแรงที่กำหนดไว้ในข้อบังคับว่าด้วยพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เช่น การเปิดเผยความลับของบุคลากรหรือผู้รับบริการที่ได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือจากความไว้วางใจ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคลากรหรือผู้รับบริการ หรือการทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทรัพย์สิน เกียรติ และชื่อเสียงของโรงพยาบาล ถือเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและผู้ที่ละเมิดสามารถถูกดำเนินการทางวินัยและทางกฎหาย ได้ด้วย โดยสามารถศึกษาประกาศพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และประกาศคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ปฏิบัติงานสุขภาพ พ.ศ. 2559 ได้ตามเอกสารแนบ
ข้อ4 พึงระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ภาพ หรือข้อความที่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
ข้อ5 พึงแยกบัญชีผู้ใช้ (Account) ระหว่างการใช้เพื่อเรื่องส่วนตัว และเรื่องหน้าที่การงานออกจากกันให้ชัดเจน
ข้อ6 พึงระมัดระวังในการใช้ถ้อยคำและภาษาในการสื่อสารให้มีความเหมาะสม หลีกเลี่ยงการใช้ภาษที่ไม่สุภาพ ไม่สร้างสรรค์ ตลอดจนการใช้ภาษที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน เข้าข่ายดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทบุคคลอื่น
ข้อ7 หากต้องการสร้าง Page หรือ Account ที่เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลอย่างเป็นทางการของส่วนงานหรือโรงพยาบาล ต้องแจ้งให้หัวหน้างาน หรือทีมสารสนเทศโรงพยาบาลบ้านธิทราบ แล้วแต่กรณี และต้องแจ้งรายชื่อของผู้ดูแลระบบ หรือเจ้าของ Account นั้นให้หัวหน้างานหรือทีมสารสนเทศโรงพยาบาลบ้านธิทราบและผู้ดูแลมีหน้าที่ต้องมอบสิทธ์ในการดูแล Page หรือ Account นั้นคืนแก่ส่วนงานหรือโรงพยาบาล เมื่อพ้นจาการหน้าที่ที่ต้องดูแล หรือพ้นสภาพจาการเป็นบุคลากรของโรงพยาบาล
ข้อ8 การเผยแร่ข้อมูล หรือแสดงความคิดเห็นที่อาจทำให้เข้าใจว่าเป็นความเห็นจากโรงพยาบาล ส่วนงานหรือหน่วยงาน ต้องมรการแสดงข้อความจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) ว่าเป็นความเห็นส่วนตัว มิใช่ความเห็นของโรงพยาบาล ส่วนงาน หรือหน่วยงานที่ตนสังกัด เว้นแต่จะเป็นความเห็นของโรงพยาบาลส่วนวานหรือหน่วยงานอย่างแท้จริง หรือได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี
ข้อ9 ผู้บริหารในระดับใดๆ พึงระมัดระวังในการเผยแพร่ข้อมูล หรือการแสดงความเห็นเนื่องจากถูกมองว่าเป็นความเห็นของหน่วยงานของตนได้ง่าย และอาจมีผลกระทบต่อความเข้าใจของผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ทั้งนี้ให้มีการแสดงข้อความจำกัดความรับผิดชอบอย่างชัดเจนเช่นเดียวกับ ข้อ 7
ข้อ10 ห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของโรงพยาบาล หรือข้อมูลที่ใช้ภายในโรงพยาบาลบ้านธิก่อนได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากผู้มีอำนาจ
ข้อ11 บุคลากรที่ปฏิบัติงานวิชาชีพ หรือเป็นผู้ให้บริการสุขภาพหรือบริการอื่นใด พึงตระหนักถึงความรับผิดชอบในการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับบริการ เนื่องจากผลของการเผยแพร่ข้อมูล อาจมีผลกระทบต่อผู้รับบริการ หน่วยงาน และวิชาชีพของตนได้
11.1 ระมัดระวังอย่างยิ่งในการใช้ Social Network ในการปฏิสัมพันธ์กับผู้รับบริการโดยเฉพาะไม่ควรใช้ Account ที่ใช้สำหรับเรื่องส่วนตัวเพื่อการนี้ เนื่องจากไม่มีวิธีที่ได้ผลสมบูรณ์ในการปกปิดความลับของผู้รับบริการบน Social Network
11.2 ปฏิบัติตามจริยธรรมของวิชาชีพอย่างเคร่งครัด
11.3 เคารพและระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่ให้มีการละเมิดความเป็นส่วนตัว( Privacy)และความลับ(Confidentiality) ของผู้รับบริการ
11.4 หากต้องการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อการศึกษา เช่น รูปถ่าย หรือสื่ออื่นๆ ที่มาจากผู้รับบริการ ต้องขออนุญาตจากผู้รับบริการนั้นก่อนเสมอ และต้องลบข้อมูลที่อาจจะทำให้มีการทราบถึงตัวตนของผู้รับบริการนั้นทั้งหมด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้รับบริการ ทั้งนี้ ให้รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลในกลุ่มปิดเฉพาะด้วย
11.5 หากพบการใช้สื่อ Social Network ที่เกี่ยวกับผู้รับบริการอย่างไม่เหมาะสม หรือพบว่ามีข้อความบน Social Network ที่อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงของหน่วยงาน ให้แจ้งฝ่ายบริหารทั่วไป
ข้อ12 พึงศึกษา การใช้ การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว หรือ Privacy Setting ให้เข้าใจเป็นอย่างดี และปรับแต่งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เหมาะสมกับบริบท